admin

          การเดินทางต่างประเทศในปี 2025 ถือเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนไทย เพราะพาสปอร์ตไทยมีพลังในการเดินทางมากขึ้น  โดยเฉพาะในเรื่อง “ไม่ต้องขอวีซ่า” หรือ “วีซ่าฟรี” (Visa-Free) สำหรับการท่องเที่ยวระยะสั้น ซึ่งช่วยลดทั้งขั้นตอนและต้นทุนก่อนออกเดินทางได้มาก บทความนี้จึงรวบรวมภาพรวมของประเทศและเงื่อนไขหลักๆ ที่คนไทยสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าในปี 2025 พร้อมทั้งข้อควรทราบเพื่อวางแผนทริปได้มั่นใจยิ่งขึ้น ภาพรวมสถานะ “ฟรีวีซ่า” ของพาสปอร์ตไทย           ล่าสุดข้อมูลจากเว็บไซต์ “Visa & Embassy” ระบุว่า สำหรับผู้ถือพาสปอร์ตไทย มีประเทศและภูมิภาคที่สามารถเข้าได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า (Visa-Free) ประมาณ 39 ประเทศ (ที่ระบุว่าเป็น Visa-Free ปี 2025) จากเว็บไซต์ visaandembassy.com นอกจากนี้ ยังมีประเทศอีกหลายแห่งที่ให้ “วีซ่าขอเมื่อเดินทางถึง (Visa on Arrival)” หรือ “e-Visa” ซึ่งแม้จะไม่เป็นแบบฟรีวีซ่าโดยตรง แต่ขั้นตอนง่ายกว่าวีซ่าทั่วไปมาก การเพิ่มขึ้นของจำนวนประเทศที่คนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เป็นผลจากการเจรจาทางด้านการท่องเที่ยวและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และยิ่งช่วยให้การท่องเที่ยวต่างประเทศน่าสนใจมากขึ้น รายชื่อประเทศยอดนิยมที่คนไทยสามารถเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ทวีปเอเชีย: เช่น ญี่ปุ่น … Read more

           การเดินทางไปต่างประเทศเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและเปิดโลกใหม่ แต่บางครั้งความท้าทายก็อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ “หลงทาง” ในเมืองที่ไม่คุ้นเคย พูดภาษาท้องถิ่นไม่ได้ และไม่มีใครรู้จัก บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ เคล็ดลับการเอาตัวรอดเมื่อหลงทางในต่างประเทศ เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างมีสติ ปลอดภัย และเดินทางต่อได้อย่างมั่นใจ 1. ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก            สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อรู้ว่าคุณหลงทางคือ ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกหรือคิดฟุ้งซ่าน เพราะจะทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย ลองหามุมเงียบ ๆ นั่งพัก ตั้งหลัก และทบทวนว่าเส้นทางที่คุณมาเป็นอย่างไร หรือจุดสุดท้ายที่คุณจำได้อยู่ตรงไหน เคล็ดลับ: หายใจเข้าลึก ๆ และให้เวลากับตัวเองสัก 1-2 นาที เพื่อเคลียร์ความคิด ก่อนเริ่มหาทางออก 2. ใช้ Google Maps หรือแอปนำทางอื่น ๆ            หนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่สุดของนักเดินทางยุคดิจิทัลคือ แอปแผนที่ อย่าง Google Maps, Apple Maps หรือ MAPS.ME เคล็ดลับ: ดาวน์โหลดแผนที่เมืองที่คุณจะไปไว้ล่วงหน้าเสมอ ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ 3. … Read more

          การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและเปิดโลกทัศน์ แต่ก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งเรื่องภาษา การเดินทาง วัฒนธรรม ความปลอดภัย และเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่าง ๆ โชคดีที่ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน เทคโนโลยีได้กลายเป็นผู้ช่วยสำคัญในการทำให้การเดินทางราบรื่นขึ้น ปลอดภัยขึ้น และสนุกยิ่งกว่าเดิม บทความนี้จะพาคุณไปดูว่าแอปพลิเคชันและเกตเจ็ตใดบ้างที่ควรมีติดตัวเมื่อเดินทางต่างประเทศ และดีอย่างไรต่อการช่วย “ชีวิต” ของนักเดินทางอย่างแท้จริง 1. แอปพลิเคชันแปลภาษา: เชื่อมโยงการสื่อสารได้ทุกที่           หนึ่งในอุปสรรคใหญ่ของการเดินทางต่างประเทศคือ “ภาษา” แอปแปลภาษาอย่าง Google Translate, Papago หรือ iTranslate สามารถช่วยให้คุณสื่อสารกับคนท้องถิ่นได้แม้คุณจะไม่เข้าใจภาษานั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร ถามทาง หรือขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ฟีเจอร์อย่างการแปลภาพจากกล้องมือถือ หรือการสนทนาแบบเรียลไทม์ ยังช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางอย่างมาก ข้อดี  ลดปัญหาด้านภาษา ,ช่วยในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเพิ่มประสบการณ์การสื่อสารกับคนท้องถิ่น 2. แอปแผนที่และการเดินทาง: ไม่หลงทางแม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต           แอปอย่าง Google Maps, MAPS.ME หรือ Citymapper กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของนักเดินทาง เพราะสามารถวางแผนเส้นทาง ทั้งเดินเท้า นั่งรถสาธารณะ หรือขับรถเองได้ง่าย … Read more

            เมื่อพูดถึงการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่กินงบมากที่สุดก็คือ “ค่าที่พัก” ไม่ว่าจะเดินทางคนเดียวหรือไปกับเพื่อน การเลือกที่พักที่คุ้มค่าในแง่ของราคาและประสบการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “โฮสเทล” (Hostel) และ “Airbnb” กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักเดินทางรุ่นใหม่ที่ต้องการทั้งความประหยัดและการเข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นมากขึ้นแต่การเลือกพักแบบนี้ดีกว่าการพักโรงแรมทั่วไปอย่างไร? บทความนี้จะพาคุณไปดูข้อดีที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน ✅ 1. ประหยัดค่าใช้จ่าย – เหลือเงินเที่ยวมากขึ้น             หนึ่งในข้อดีที่เห็นได้ชัดที่สุดของโฮสเทลและ Airbnb คือ ราคาถูกกว่าโรงแรมอย่างมาก โดยโฮสเทล ราคาห้องพักแบบรวม (Dormitory) อาจอยู่ที่เพียงคืนละ 200-600 บาท ขึ้นอยู่กับประเทศที่ไปเที่ยว ส่วน Airbnb จะมีตัวเลือกตั้งแต่ห้องเดี่ยว ห้องแชร์ หรือแม้แต่บ้านทั้งหลัง ที่สามารถเลือกให้ตรงกับงบของผู้เดินทางได้ เหมาะกับใครบ้าง เช่น แบ็กแพ็กเกอร์ /นักศึกษา/นักเดินทางคนเดียว/กลุ่มเพื่อนที่ต้องการแชร์ค่าที่พัก ✅ 2. ได้พบเพื่อนใหม่จากทั่วโลก             โฮสเทลเป็นแหล่งรวมของนักเดินทางจากหลากหลายประเทศ คุณอาจได้พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือแม้กระทั่งหาเพื่อนร่วมทริปโดยไม่ตั้งใจ หลายโฮสเทลมีพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องนั่งเล่น ครัว หรือจัดกิจกรรมเล็กๆ เช่น ทัวร์เดินเล่น … Read more

            การได้เดินทางสู่ทะเลทราย ไม่ว่าจะเป็น ทะเลทรายซาฮาราในโมร็อกโก, วาดิรัมในจอร์แดน, หรือ ทะเลทรายอาตากามาในชิลี ถือเป็นประสบการณ์ที่นักเดินทางหลายคนใฝ่ฝัน เพราะทะเลทรายไม่ใช่แค่พื้นที่ว่างเปล่าเต็มไปด้วยทรายเท่านั้น แต่ยังซ่อนเสน่ห์แห่งธรรมชาติ วัฒนธรรม และการผจญภัยไว้อย่างน่าทึ่ง             อย่างไรก็ตาม การเดินทางในภูมิประเทศแบบทะเลทรายต้องการการเตรียมตัวที่รอบคอบกว่าการท่องเที่ยวทั่วไป เพราะสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัดในตอนกลางวัน หนาวยะเยือกในยามค่ำคืน และความห่างไกลจากความสะดวกสบาย ทำให้นักท่องเที่ยวต้องมีการวางแผนและจัดของใช้ให้เหมาะสมที่สุด เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมทั้งร้อนและหนาว             ทะเลทรายในตอนกลางวันอาจร้อนแตะ 40-50 องศาเซลเซียส แต่เมื่อพระอาทิตย์ตก อุณหภูมิอาจลดลงเหลือเพียง 5-10 องศา หรือแม้กระทั่งติดลบในบางฤดู ดังนั้นควรเลือกเสื้อผ้าที่ ระบายอากาศได้ดี เช่น เสื้อแขนยาวผ้าบางและกางเกงขายาวเพื่อลดการสัมผัสแสงแดดโดยตรง และ เสื้อกันหนาวหรือแจ็กเก็ตหนา สำหรับตอนกลางคืน นอกจากนี้ ควรมี หมวกปีกกว้าง, ผ้าคลุมหัว (เช่น Shemagh หรือผ้าฮิญาบ) เพื่อป้องกันแดดและฝุ่นทรายที่อาจพัดแรงในบางช่วงเวลา อย่าลืมอุปกรณ์กันแดด             แดดในทะเลทรายรุนแรงกว่าที่อื่นมาก การ ทาครีมกันแดด SPF สูง อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงควรมี แว่นกันแดดแบบกัน UV … Read more

เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก นักเดินทางต้องเปลี่ยนวิธีเอาตัวรอด         Backpacking หรือการเดินทางแบบแบกเป้ไปท่องโลก ยังคงเป็นสไตล์ยอดนิยมของนักเดินทางรุ่นใหม่ ที่ต้องการอิสระ ประหยัด และเข้าถึงวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง แต่ในปี 2025 การแบกเป้ท่องโลกไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป โลกหลังยุคโควิด ผสมกับการเติบโตของเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI และ Big Data ทำให้ “ความปลอดภัย” กลายเป็นประเด็นใหม่ของนักเดินทาง เพราะถึงแม้เทคโนโลยีจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่มันก็อาจกลายเป็น “ช่องโหว่” หากเราไม่ระวัง วันนี้เราขอชวนคุณมาอัปเดตแนวทาง Backpacking อย่างไรให้ปลอดภัยในยุค AI  เพื่อให้คุณเที่ยวได้อย่างอิสระ สนุก และสบายใจมากขึ้น 🔒 1. ป้องกันข้อมูลส่วนตัวขณะเดินทาง         ในยุคที่แค่เชื่อมต่อ Wi-Fi ก็อาจถูกแฮกได้ นักเดินทางจึงต้องระวังมากกว่าที่เคย โดยเฉพาะการใช้เน็ตสาธารณะในที่พัก สนามบิน หรือร้านกาแฟ วิธีที่ปลอดภัย 🧠 2. ใช้ AI ให้เป็นเครื่องมือ (ไม่ใช่เจ้านาย)         หลายคนเริ่มใช้ AI อย่างเช่น … Read more

       ในยุคปัจจุบันที่การสื่อสารไร้ขอบเขต การแปลภาษากลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้มนุษย์จากต่างชาติ ต่างวัฒนธรรม สามารถเข้าใจกันได้ ไม่ว่าจะเพื่อธุรกิจ การศึกษา วรรณกรรม หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน การแปลภาษาไม่ได้เป็นแค่การ “แปลงคำจากภาษาหนึ่งสู่อีกภาษาหนึ่ง” เท่านั้น แต่ยังเป็นศิลปะของการสื่อความหมาย ความรู้สึก และบริบทให้ครบถ้วนที่สุด        ลองจินตนาการถึงโลกที่ไม่มีการแปลภาษา หนังสือดี ๆ มากมายจะไม่สามารถเข้าถึงผู้อ่านต่างชาติได้ เว็บไซต์จะไม่สามารถให้บริการลูกค้าทั่วโลก และบริษัทระดับนานาชาติจะประสบปัญหาในการเจรจาธุรกิจอย่างมหาศาล การแปลภาษาจึงเปรียบเสมือน “สะพาน” ที่เชื่อมโยงผู้คนจากทั่วโลกเข้าด้วยกัน ในวงการธุรกิจ การแปลภาษาถือเป็นเครื่องมือที่เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการแปลเอกสารทางกฎหมาย เอกสารทางเทคนิค เว็บไซต์ หรือโฆษณา การใช้ภาษาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างความเข้าใจอย่างแท้จริง        ในด้านการศึกษา นักเรียนและนักวิจัยจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงองค์ความรู้จากงานวิจัยหรือบทความต่างประเทศได้ผ่านการแปลที่ถูกต้อง แม้แต่ในวงการแพทย์ การแปลคู่มือทางการแพทย์หรือฉลากยาก็ช่วยให้ผู้ป่วยจากหลากหลายเชื้อชาติได้รับการดูแลที่ถูกต้องและปลอดภัย        หลายคนเข้าใจว่าการแปลคือการ “แปลคำต่อคำ” ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะภาษาแต่ละภาษามีโครงสร้าง วัฒนธรรม และวิธีการสื่อสารที่แตกต่างกัน นักแปลจึงต้องมีทั้งทักษะทางภาษา ความรู้เฉพาะทาง และความเข้าใจในวัฒนธรรมของทั้งสองภาษา        ตัวอย่างเช่น การแปลวรรณกรรมหรือบทกวีไม่สามารถแปลตรงตัวได้ แต่ต้องถ่ายทอดอารมณ์และความลึกซึ้งของต้นฉบับออกมาให้ผู้อ่านเข้าใจและรู้สึกเช่นเดียวกัน หรือแม้แต่การแปลบทสนทนาในภาพยนตร์ หากไม่เข้าใจบริบท อาจทำให้ผู้ชมเข้าใจผิดหรือขาดอรรถรสไป        อาชีพนักแปลในปัจจุบันมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในรูปแบบฟรีแลนซ์และทำงานประจำ องค์กรระหว่างประเทศ บริษัทสื่อ สถาบันการศึกษา … Read more

                ในปัจจุบัน การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่มีทัศนียภาพสวยงาม สัมผัสกับภูมิประเทศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า ขึ้นเขา หรือการสำรวจแหล่งน้ำธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์เอาไว้ โดยที่นักท่องเที่ยวจะได้พบกับความสงบ ร่มรื่น และประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาจากการท่องเที่ยวในเมืองได้ แต่ในขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวในธรรมชาติยังมีความเสี่ยงที่มองไม่เห็น และหนึ่งในนั้นคือ “แผ่นดินไหว” ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยที่นักท่องเที่ยวอาจไม่ทันได้ตั้งตัว แผ่นดินไหว ภัยธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัว                 แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก ซึ่งทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนในดินและพื้นผิวโลก แผ่นดินไหวสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสถานที่และทุกเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับรอยเลื่อนของเปลือกโลก เช่น แถวแปซิฟิก ริง ออฟ ไฟ (Ring of Fire) ที่เป็นแหล่งที่มีแผ่นดินไหวและภูเขาไฟเกิดขึ้นบ่อย                 การเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติถือเป็นความเสี่ยงที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถมองเห็นได้ในระยะสั้นหรือระยะยาว แม้ว่าพื้นที่บางแห่งจะมีการเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่บางครั้งแผ่นดินไหวก็สามารถเกิดขึ้นได้อย่างไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทำให้การเตรียมตัวและการระมัดระวังกลายเป็นสิ่งสำคัญในการเดินทางไปยังพื้นที่เหล่านี้ ความเสี่ยงของแผ่นดินไหวต่อนักท่องเที่ยว                 ในพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น ภูเขา ป่าลึก หรือแหล่งน้ำต่าง ๆ นักท่องเที่ยวอาจพบว่าไม่มีโครงสร้างพื้นฐานหรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมือนกับในเมือง การที่นักท่องเที่ยวต้องเดินทางในพื้นที่ห่างไกลอาจทำให้เกิดความยากลำบากในการอพยพหรือการได้รับความช่วยเหลือเมื่อเกิดแผ่นดินไหว นักท่องเที่ยวอาจไม่สามารถหาที่หลบภัยที่มั่นคงหรือสะดวกได้ หากเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง                 นอกจากนี้ การที่แผ่นดินไหวสามารถเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ เช่น การเกิดดินถล่ม … Read more

      การผจญภัยทั่วโลกไม่ใช่แค่การเดินทางเพื่อหาความสนุกสนาน แต่ยังเป็นโอกาสในการค้นพบความท้าทายใหม่ๆ และสัมผัสกับความงดงามที่ไม่สามารถหาได้จากที่ใดในโลก การเดินทางไปสัมผัสสถานที่ใหม่ๆ ไม่เพียงแต่ทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ แต่ยังเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ที่กว้างขึ้น ที่นี่เราจะพาคุณไปสัมผัสประเทศที่คุณต้องไปเยือนด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิต 1. นิวซีแลนด์ – ดินแดนแห่งการผจญภัย       หากคุณเป็นคนที่หลงใหลในธรรมชาติและการผจญภัย นิวซีแลนด์คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร ด้วยภูมิประเทศที่หลากหลายตั้งแต่เทือกเขาสูงชันไปจนถึงทะเลสาบน้ำใส มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าในอุทยานแห่งชาติฟิออร์ดแลนด์ (Fiordland) หรือการท่องเที่ยวเมืองควีนส์ทาวน์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองแห่งการผจญภัย” ที่นี่คุณสามารถล่องแก่ง, กระโดดบันจี้จัมพ์ หรือแม้กระทั่งปีนเขาอย่างมืออาชีพได้ 2. เปรู – อาณาจักรแห่งประวัติศาสตร์       การเดินทางไปยังเปรูจะพาคุณย้อนเวลาไปสู่ยุคโบราณที่อาณาจักรอินคาเคยรุ่งเรือง เป็นการผจญภัยที่ผสมผสานระหว่างการสำรวจธรรมชาติและการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง อย่างการเดินทางไปเยือนเมืองมาชูปิกชู (Machu Picchu) ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงในแอนดีส นอกจากนี้ยังสามารถเดินป่าในเส้นทาง Inca Trail ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางการเดินป่าที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดเส้นทาง 3. นอร์เวย์ – การผจญภัยในอาร์กติก**       นอร์เวย์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เต็มไปด้วยความงามของธรรมชาติจากทิวทัศน์ที่ตระการตาของฟยอร์ดที่ลึกและภูเขาที่สูงชัน นอกจากจะได้ชมแสงเหนือ (Aurora Borealis) ที่น่าตื่นตาตื่นใจในช่วงฤดูหนาวแล้ว ยังมีโอกาสได้ท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนเพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติที่คงอยู่ทั้งปี นอกจากนี้การเดินป่าผ่านเส้นทางต่างๆ ในภูเขาของนอร์เวย์เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คุณไม่ควรพลาด 4. แกรนด์แคนยอน, สหรัฐอเมริกา – ความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ … Read more

       และแล้วก็ย่างเข้าเดือนแห่งความรัก หลายคนก็มีแพลนจะพาคนรักไปเที่ยวประเทศโซนยุโรป เป็นทวีป ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมสถานที่แห่งความโรแมนติกของโลกไว้เยอะที่สุด ไม่ว่าจะด้วยสภาพภูมิประเทศที่ สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์งดงามอลังการ เป็นภาพฉากหลังที่เหมาะแก่การพาคนรักไปสวีทหวานที่ต่างประเทศ วันนี้เรามีสถานที่สุดโรแมนติกมาแนะนำให้ท่านเก็บกระเป๋าจูงมือคนที่คุณรักไปกระชับความสัมพันธ์ เก็บเกี่ยวความทรงจำอันแสนหวานกันค่ะ พิพิธภัณฑ์คาซ่า บัตโล่ ในบาร์เซโลน่า        ใครที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวหรือเคยไปเที่ยวที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน คงจะไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ Antoni Gaudi หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “เกาดี้” สถาปนิคชื่อดังที่มีผลงานให้เห็นอยู่หลายที่ในบาร์เซโลน่า บอกได้เลยว่าถ้ายังไม่ได้ไปดูสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดยเกาดี้ ถือว่ายังมาไม่ถึงบาร์เซโลน่า และเกาดี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บาร์เซโลน่ามีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา เนื่องจากสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดยเกาดี้มีลักษณะที่ไม่เหมือนใคร และคาซ่าบัตโล่ (Casa Batllo) ก็คือหนึ่งในนั้นคาซ่า บัตโล่ (Casa Batllo) สถาปัตยกรรมที่ถือเป็นไฮไลท์ของเมืองนี้ อาคารต้นแบบในศตวรรษ 19 ที่ถูกตกแต่งให้คล้ายกับปราสาทในเทพนิยาย พาไปที่นี่รับรองว่าคู่รักของคุณจะต้องตกหลุมรักคุณอีกครั้งแน่นอน ปราสาทเอดินเบอระ ประเทศสก็อตแลนด์        ถ้าจะให้ขึ้นชื่อว่าไปถึงเมืองเอดินบะระก็ต้องไปเยือนปราสาทเอดินบะระ ซึ่งเป็นจุดชมวิวประจำเมือง ตั้งอยู่บนเขาสูง มองลงมาจะเห็นทั้งย่านเมืองเก่าและเมืองใหม่ โดยเฉพาะช่วงที่อากาศแจ่มใสอาจมองไปได้ไกลถึงทะเลเลย อีกหนึ่งเมืองที่เหล่าคู่รักต่างก็วาดฝันว่าจะได้ไปเยือนสักครั้ง เพราะนอกจากความสวยงามของสิ่งปลูกสร้าง และสถาปัตยกรรมสุดอลังการที่สามารเห็นได้ทุกที่ภายในเมืองเอดินเบอระ เมืองเอดินเบอระแห่งนี้ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และขนบประเพณี ด้วยเหตุผลหลากหลายเหล่านี้ จึงสามารถทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้แห่มาชื่นชมความงามกันอยู่ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้วยรถบัสเปิดประทุน ซึ่งคุณสามารถขึ้นรถบัสรับความโรแมนติกของบรรยากาศในเมืองได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งภายใน 1 วัน … Read more